sacit ชูงานศิลปหัตถกรรมไทยยั่งยืน ผลักดันแนวทาง BCG Model ให้แก่ผู้ประกอบการเพื่อ
ต่อยอดงานหัตถศิลป์ไทยรับเทรนด์รักษ์โลก หลังผู้บริโภคหันมาสนใจสินค้า Eco Trend กันมากขึ้น
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgGoqSXDZUrdyzstMg785DvXxuFRHqMSt6XjSfsFGxBQMRKMwuPgCPVmj7qCzIRwqQdEOKq-AHstJ9I0mjpTbwq5-E2atppaHEYVdUF3xfFrtslEnDAxAFpJcnIlwlvWi7HPZu1ta1Q_USrnmP_DyXTXhKrvb-dmPSx-NJB3uj2ylPKpfYy3D9P7WbEew/s16000/batch_490124.jpg)
นายภาวี โพธิ์ยี่ รักษาการแทนผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย หรือ sacit เผยว่า BCG Model คือการพัฒนาเศรษฐกิจแบบองค์รวมทั้ง 3 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) การใช้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเข้ามาช่วยเพิ่มมูลค่า, เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน (Circular Economy) การใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า ลดการสูญเสีย ใส่ใจเรื่องการ Recycle และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) หรือการเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นนโยบายในการผลักดันเศรษฐกิจที่สอดคล้องกับปัญหาสิ่งแวดล้อมในปัจจุบัน ซึ่งถือเป็นปัญหาระดับโลกที่ต้องเร่งดำเนินการแก้ไข ไม่ว่าจะเป็นปัญหาความหลากหลายทางชีวภาพของโลกที่ลดลงจนนำไปสู่ความเสียหายของห่วงโซ่อาหาร ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ปัญหามลพิษทางอากาศ และอื่นๆ ซึ่งทำให้หน่วยงาน และองค์กรต่าง ๆ ทั่วโลกต่างร่วมกันจัดตั้งนโยบายเพื่อป้องกัน และเพิ่มมาตราการป้องกันสิ่งแวดล้อมเพื่อให้คนรุ่นต่อไปสามารถอยู่กับสิ่งแวดล้อมที่ดี ด้วยปัจจัยเหล่านี้จึงทำให้พฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคปัจจุบันหันมาให้ความสำคัญกับการใส่ใจสุขภาพ เลือกใช้สินค้าที่ปลอดภัยไร้สารพิษ และคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม จนเกิดเป็นเมกะเทรนด์ของโลก ที่ผู้ประกอบการทุกคนต้องปรับตัวให้สามารถตอบรับความต้องการของตลาดโลกจนทำให้สามารถสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่ผลิตภัณฑ์ และเกิดเป็นรายได้อย่างยั่งยืนในอนาคตด้วยปัจจัยดังกล่าว
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi5uC_iOxRrIoayBo8RG55c6czmUe3J_OkpokMRp544jQESgGECPPEebfhUtXGU1HD9UWTMLtEh-FjaNv1kkD2Egl7i7kkR-CPFYG4H7c4ZRwew8Q-C2hRy4KvJg-3eLiEo1zI5gKBqRoQs1eWYX2uS24oahAi7DWIatqbTn-s212QecW-QFfaQzva1FA/s16000/batch_20230615_SACIT-1267.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEhUyVvzblLyqZeDpimMMw8njg5S8Fq1It5PPS6Wz450CPKrcK_eOR0FZnaqWt5AVNtkmooPcZ1fRso7XgdKEOUWpFnaTr6UV0PE7vZuS3pKtOMsUWR6b2oh7Km-JuTCiUlpPuJSZRSxLsLh9hauNypFDXv5hWc6jiefxyy3jOu-jqKjfUE0EiQEFqNJCg/s16000/batch_20230615_SACIT-1193.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEh-wk29qBKjv1ZWSWw0lo1TqmOiHd4163rjrn_uZ6Rr5vz0pf4kXZ0q3SQdp4j2jXoSGDy50Ke4NHNDEvgcGWxu4B7FFSHy2oBf8g0i09wbWNka4OKWyZDgHazBEQyzvR_jp_xmEB4yiAl5YFzfLGaxit91tuaixa2vW9180HVOGodUh4MstFIw91upww/s16000/batch_489918.jpg)
sacit หน่วยงานภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงพาณิชย์ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญ และขานรับแนวคิด BCG Model ที่สอดรับกับวิสัยทัศน์ขององค์กรในการส่งเสริมงานศิลปหัตถกรรมไทยในทุกมิติอย่างยั่งยืน ประกอบด้วย การสร้างความสามารถในการแข่งขัน , การสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม , และการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผ่านการดำเนินงานของ sacit ภายใต้ยุทธศาสตร์การสืบสานและพัฒนาทักษะมือของช่างหัตถศิลป์ให้คงอยู่ไม่เลือนหายไปตามกาลเวลา การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ศิลปหัตถกรรมไทยให้มีฟังก์ชันการใช้งานตอบโจทย์ผู้ซื้อมากขึ้น การส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดให้กับงานศิลปหัตถกรรมไทยทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงการสื่อสารภูมิปัญญางานศิลปหัตถกรรมไทยไปสู่กลุ่มคนรุ่นใหม่ ให้เกิดภาพจำ เกิดทัศนคติที่ดี รักหวงแหน และภาคภูมิใจในงานศิลปหัตถกรรมไทยที่ทันสมัยและสามารถใช้งานในชีวิตประจำวันในยุคดิจิทัลได้
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiAlxu-sidcfITaoNeRowG9zNQim5R8UGFuO6XdL3BrLRamyI4z2cS40MrCTjSeF84teIfTm827gZr_6ncepxzFofdnRly5OXZUoatADOdA_ZWKH2oR77pJ1AYdYPqOWsO2fIOzFNXd_vRxKObur3y967jV1w3KQxMHz2m8pNFWoKURSdxTe_tQ-wAZ_g/s16000/batch_490140.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEjvR2MTc9id8JQv3YxTZcBR2dnUVY1I-LwdBU09R_r86JaxyHR_KQOecjpsaafj7OzQ0m14K-BqvR3DIjw5PKfiS1D5Go3OzX_iqniYZ75KlIuyj1ZexsTwNLRYT1-aIWO_AXHxS8stcu6c3VXpCtNVs4iMhTIocGoEyN6A9BNJISI8O3O-F102Q-ON9A/s16000/batch_20230615_SACIT-1294.jpg)
นายภาวีฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า งานศิลปหัตถกรรมไทยนั้นเป็นภูมิปัญญาที่ใช้วัตถุดิบจากธรรมชาติที่หาได้จากท้องถิ่นอยู่แล้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคในปัจจุบัน sacit จึงได้ส่งเสริมและผลักดันให้ผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมหันมาพัฒนาต่อยอดด้วยการสร้างสรรค์ชิ้นงานผสานเข้ากับเทรนด์การรักษ์โลก เช่น การพัฒนาระบบการบำบัดน้ำเสียให้เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม รวมไปถึงการใช้วัตถุดิบให้เต็มวงจรชีวิตและสามารถใช้ทรัพยากรได้อย่างคุ้มค่า เพื่อนำไปสู่การเพิ่มมูลค่าสินค้า สร้างงานหัตถศิลป์ที่มีคุณภาพ ผลิตอย่างใส่ใจไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม มีเอกลักษณ์ ไม่ตามกระแส ใช้งานได้คุ้มค่า ลดปริมาณขยะ เป็นการบริหารจัดการภายในชุมชนให้เกิดรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืนต่อไป
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiSEtnnhYy5gCAd1sD-xSzLupaNVU6vCjlrzKFldE6wW1wSDLGbqdPUZpaejMM4Nfe-OZoZ2fXI01yqpMAAztdBLH0DBB5menTfs5KjFnURBOTKBxXto2UMiaoVQxMNSAseXI83fwvf7-6TqEqXZwdE4x9R4Tey-FsOC6S86gMuBqERcljZK4M4mW2vkg/s16000/batch_2%20(1).jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEgLgmxEe_ENmoYlRzjvyKtaoOo4VLw-76Vwxh227aYdEHh8CcaASSvEdYphlwnzMP_WY_cVPZl-B16Q9axaMNHZqgQrxbA_-sKwRW8SH37WhTmUObG0wpRhCoH0ZQno4waUiTAIDVyl9ZC0DYbx9rGqq-oF7u96h5pWtPGyfDHlePu2ScdwDktb5wfUPA/s16000/batch_1%20(1).jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEiTYBc8xK3Zqv8lqxS9ml9UWfXnmnXz_2GpWFusyuT4vQY2v1nu2m5uw-rnTAh5qM80QxfCY0k909e8BvrsA10I_BP8k6SmlGc1dXKtjr6bDvkVH_r0L0GF-kaIwleGmeysyhiZDdBZhn7c3Xlnji3YqGSDlAC-kSvpomu71nb-62Q_rXn-fNYQ_72SeQ/s16000/batch_1%20(4).jpg)
ครูอุไร สัจจะไพบูลย์ ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2554 ของ sacit เผยถึงการต่อยอดงานผ้าทอย้อมสีธรรมชาติ ที่นำแนวคิด BCG Model มาใช้ในการสร้างสรรค์งานผ้าทอ ภายใต้ชื่อแบรนด์ Hattra ด้วยกระบวนการผลิตงานผ้าไทย ผ่านแนวคิดการใช้เส้นใยธรรมชาติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การย้อมสีจากเปลือกไม้ และดอกคำแสด ที่ให้สีส้ม ซึ่งเป็นสีประจำจังหวัดอุดรธานี และต่อยอดเรื่องการประยุกต์ใช้วัสดุเศษผ้าที่เหลือทิ้งจากกระบวนการผลิต จนพัฒนาเกิดมาเป็นสินค้าประเภท Circular Design อีกทั้งยังมีการนำเส้นใย ฟิลาเจน ซึ่งเป็นนวัตกรรมผลิตตัวเส้นใยจากคอลลาเจน ที่มีคุณสมบัติช่วยรักษาความชุ่มชื้น กำจัดกลิ่น ป้องกันรังสียูวี และระบายอากาศได้ดีเหมาะกับอากาศประเทศไทย และนำมาใช้ในงานผ้ามัดหมี่ขิดทอมือย้อมสีธรรมชาติ ซึ่งเป็นการผสานนวัตกรรมการผลิตเข้ากับภูมิปัญญาพื้นบ้านอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEil5de0JMenpzPCx58SmshWKSa_TfUMDGOJQgbyajpEzsyTMsuH3GQxYPqnY7XWzu4q1rcV0BpfzUxKHCwUkUhmuWAHWzO5z9R7lkgiGTqVfI7zGzO7fGoOddSx67cTThWGTh_oFq9exwQQG2_vbnSGDqpnHBXD_WmHQVnMmRwne1wFBUzSc0aol6xAlQ/s16000/batch_20230616_SACIT-1182.jpg)
![](https://blogger.googleusercontent.com/img/b/R29vZ2xl/AVvXsEi1zQ9HXQcp3YCtxlq42nWPHPB8AbMYW2LIp9sB3bA-8uYjRm7sW28fJvaXyBVwKoZ8-46CzMwCecuUQHBVfZ1whGgSCOY-_3xmw9m8FycvLbAl3Y_sI3XXubMOfz1mKg5mqtP7T7EqTWFPF5nx3wLN7IW4__XVKqRyklOg8BUtcSwftaVEqZvdiA7m6g/s16000/batch_20230616_SACIT-1125.jpg)
ครูทิวารุ่ง กำหนดแน่ ครูช่างศิลปหัตถกรรม ปี 2555 ของ sacit กล่าวถึงเทคนิคการทอผ้าไหมเขียนลายโบราณว่า ทางกลุ่มได้ให้ความสำคัญกับการใช้วัตถุดิบหลักจากธรรมชาติมาใช้ในผลงานทอผ้าไหมมาตลอด ซึ่งใช้สีหลักอยู่ 2 สี คือ สีจากเปลือกไม้ และสีคราม โดยมีกลุ่มคนเกษียณมาช่วยกันสร้างสรรค์ผลงานในยามว่าง เกิดเป็นความร่วมมือในชุมชน และยังสามารถสร้างรายได้ให้กับครอบครัวและชุมชนอย่างยั่งยืนต่อไป
เมื่องานหัตถศิลป์ผนวกเข้ากับ BCG Model จะสามารถสร้างวัฏจักรงานศิลปหัตถกรรมขึ้นมาในรูปแบบที่สามารถสร้างความยั่งยืนได้ครบในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็นการสืบสานงานศิลปหัตถกรรมไทยให้อยู่คู่กับคนไทยไปยังคนรุ่นต่อไป การสร้างความยั่งยืนของทรัพยากรและความหลากหลายทางชีวภาพ พร้อมพัฒนาเศรษฐกิจและยกระดับอุตสาหกรรมให้สามารถแข่งขันได้อย่างทัดเทียมกับตลาดสากล รวมไปถึงสามารถตอบสนองต่อกระแสการเปลี่ยนแปลงของโลกได้อย่างมีประสิทธิภาพและนำไปสู่การสร้างรายได้ที่ยั่งยืนให้แก่ชุมชนและผู้สร้างสรรค์งานศิลปหัตถกรรมไทย
No comments